Support
poloshirt
02 980 1201
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ
userfiles/profile-picture/0ca5c951-8d66-4d0b-9282-6155401981cc/เสื้อยืด.jpg

Post : 2012-09-07 19:25:09.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ประวัติกางเกงยีนส์ แฟชั่นที่ไม่มีวันตาย

กางเกง ยีน JEANS

ถ้าจะให้นึกถึงแฟชั่นที่ไม่มีวันตายแล้วล่ะก็  ยีนส์’  คงเป็นอันดับแรก ๆ ที่เรานึกถึง  ยีนส์เป็นไอเท่มที่ถือว่าสำคัญมาก ๆ ในโลกแฟชั่น  (สำคัญขนาดที่ทุกคนมี)  แม้มันจะมีมาเป็น  100  ปี  เราก็ยังคงใส่กันอยู่เรื่อยมาทุกยุค  ทุกสมัย  ถึงจะใส่จนสีตก  หรือขาดลุ่ยขนาดไหนก็ยังคงหยิบมาใส่ได้ตลอด  เป็นไอเท่มคลาสสิกที่ไม่มีวันตายของจริง  เผลอ ๆ เจ้าของอาจจะตายก่อนยีนส์ซะด้วยซ้ำ เพราะกางเกงยีนส์สามารถสวมใส่กับเสื้อยืด เสื้อ โปโล เสื้อ cotton 100 ใส่กับอะไรก็ได้ ทุกเพศทุกวัย ทุกโอกาส

JEANS  หรือที่เรา ๆ เรียกมันว่า  ยีนส์’  เป็นชื่อเรียกของกางเกงชนิดหนึ่งที่ทำจากผ้าเดนิม  DENIM  (เด นิม)  คือ  ชื่อของผ้าคอตตอนเนื้อหยาบทอเส้นเฉียง  (TWILL)  เพื่อให้แข็งแรงทนทาน  เมื่อก่อนทำจากผ้าวูล  ชื่อว่า  SERGE  มีต้นกำเนิดจากเมือง  NIMES  ในฝรั่งเศสตอนใต้  เรียกว่า  SERGE DE MIMES  ภายหลังเรียกสั้น ๆ ว่า  DENIM

1800’ S

เริ่มมาจากเป็นกางเกงสำหรับคนงานเหมือนทองในอเมริกาใส่  ด้วยวัสดุที่แข็งแรงทนทาน  เหนียว  ไม่ขาดหรือพัง  ง่าย  ระยะเวลาการใช้งานยาวนานกว่าวัสดุอื่น ๆ และมักจะถูกย้อมให้เป็นสีน้ำเงินเข้ม  ด้วยอินดีโก้ที่ได้มาจากพืช  แถบอินเดีย  LOEB STRAUSS  ชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมันได้เริ่มธุรกิจขายส่งนี้ในปี  1853  ตอนหลัง  LOEB  ได้เปลี่ยนชื่อเป็น  LEVI  เพื่อให้จำง่ายขึ้นและได้กลายเป็นแบรนด์  LEVI STRAUSS  ที่โด่งดัง  ต่อมาในปี  1872  JACOB  DAVIS  ได้คิดค้นการใช้หมุดโลหะยึดกับกางเกงตามมุมต่าง ๆ ที่ขาดง่าย  เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกางเกงยิ่งขึ้น  แต่เขาไม่มีเงินจดสิทธิบัตรจึงมาร่วมกับกับ  LEVI  โดยใช้หมุดเป็นทองแดง  จากนั้นในปี  1886  LEVI  ก็ได้ใช้โลโก้  กางเกงเป็นม้าสองตัว  ดึงกางเกงอยู่เพื่อแสดงถึงความแข็งแรง  และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของยีนส์ที่เราใส่ ๆ กัน

 1930’ S

ยุคที่ฮอลลีวูดมีหนังคาวบอยตะวันตกเยอะมาก ๆ และคาวบอยทั้งหลายก็ใส่ยีนส์เสื้อยืด ในหนังด้วย  ทำให้ยีนส์ยิ่งดังขึ้นไปอีก  กลายเป็นเสื้อผ้าใส่ในชีวิตประจำวัน  มากกว่าเป็นแค่เสื้อผ้าใส่ทำงานของชนชั้นแรงงาน

1940’ S

ผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่สอง  ทำให้ยีนส์ผลิตน้อยลง  แต่ก็ยังได้รับความนิยมในหมู่ทหารในวันที่ไม่ได้  ปฏิบัติภารกิจ  พอหมดสงครามโลก  WRANGLER  กับ  LEE  ก็เริ่มเข้ามาแข่งขันในตลาดยีนส์

1950’ S

ยีนส์นิยมมากในหมู่วัยรุ่น  เป็นสัญลักษณ์แห่งการกบฏ  (เหมือนอย่างที่  JAMES  DEAN  ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์  ออกรายการโทรทัศน์)  บางโรงเรียนถึงขั้นห้ามนักเรียนใส่ยีนส์เลยทีเดียว

1960’ S  และ  1970’ S

ยีนส์เริ่มแตกต่างและหลากหลายมากขึ้น  เป็นจุดเริ่มของขาบานยุค  70’S  ที่เรารู้จักดี  มีการปักลายหรือเพ้นท์ลาย  กราฟิกสีสันเพื่อให้แมทช์กับแฟชั่นยุคนั้น

1980’ S

ยีนส์กลายเป็นไฮแฟชั่น  ดีไซเนอร์ดังอย่าง  GUCCI  ก็ทำยีนส์ออกมาขาย  เป็นไอเท่มแฟชั่นที่ทุกคนต้องมี  ยุคนั้นยังมีสไตล์ต่าง ๆ เกิดขึ้นอีกมากมาย  อย่างยีนส์ฟอกซีด  สกินนี่  ซุปเปอร์สกินนี่  ไปจนถึงแจ็คเก็ตยีนส์ที่ฮิตมาก

1990’ S  ถึงปัจจุบัน

ในช่วงยุค  90’S  ความนิยมของยีนส์ในหมู่วัยรุ่นเริ่มเฟดลงบ้าง  เนื่องจากไม่มีใครอยากใส่ยีนส์เหมือนที่พ่อแม่ตัวเองใส่มาตลอด  แต่หลังจากนั้นก็กลับมาได้รับความนิยมอีกจนได้  ทุกวันนี้ยีนส์มีหลากหลายแบบมากทั้งสกินนี่  ซุปเปอร์สกินนี่  ขาสั้น  ขากว้าง  ขาม้า  บอยเฟรนด์  เอวต่ำ  เอวสูง  ขอแค่เลือกให้เหมาะกับรูปร่างเท่านั้น  ก็พอส่วนจะใส่เดนิมกับเดนิม  หรือจะเอาไปใส่กับอะไรนั้นก็แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคนเลย  เพราะสำหรับยีนส์  มันไม่มีข้อจำกัดอยู่แล้ว

userfiles/profile-picture/0ca5c951-8d66-4d0b-9282-6155401981cc/เสื้อยืด.jpg

Post : 2012-08-23 22:34:19.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  เสื้อเหม็นอับหน้าฝน

ช่วงหน้าฝน เช่นนี้ หรือ ฝนก็ตกตลอด ทั้งปี ทำให้การตากผ้าไม่่แห้งสนิทหลายคนคงเบื่อไม่อยากใส่เสื้อโปโล ไปเลย

วันนี้เรามีผลิตภัณฑ์หใม่มาแนะนำ เพื่อให้เสื้อโปโล ที่่ท่านรักสามารถใส่ได้ทุกวันทุก ฤดู                 

 แอมบิเพอร์  บลอสซั่ม  แอนด์  บรีซ

                เพิ่มความหอมเย็นประหนึ่งอยู่ท่ามกลางมวลดอกไม้  พร้อมกำจัดกลิ่นจากเชื้อแบคทีเรีย  ช่วยสร้างเสน่ห์ความหวานติดตรึงกายได้ตลอดทั้งวัน เป็นเสปรย์ปรับกลิ่นสำหรับเสื้อผ้า โดยเฉพาะไม่เพียงแค่กลิ่นที่หอมเต่สามารถ กำจัดเชื้อแบคทีเรียในผ้าได้ด้วย มีให้เลือก สองแบบ

                สาวเฮลตี้  สุดเพอร์เฟ็กต์  แอมบิเพอร์  แอนตี้  แบคทีเรีย

                ไม่เพียงแค่กลิ่นหอม  แต่ยังเพิ่มพลังในการต่อสู้กับกลิ่นอันเกิดจากเชื้อแบคทีเรียได้ดียิ่งกว่าเดิม  ลดปริมาณแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นถึง  99.9%  ให้สาวเฮลตี้  วางใจในความสะอาดได้ตลอดทั้งวัน

userfiles/profile-picture/0ca5c951-8d66-4d0b-9282-6155401981cc/เสื้อยืด.jpg

Post : 2012-07-19 15:19:17.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  เลือกสีเสื้อให้เหมาะกับ สีผิว

 เคล็บลับการเลือกใส่เสื้อผ้า ที่เหมาะสมกับสีผิว

            สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวคล้ำส่วนมากมักแอบอิจฉาสาวผิวขาวเป็นธรรมดา เพราะไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้าสีอะไร ก็ดูเข้าท่าไปซะหมด ยิ่งเวลาที่ที่ทำงาน มีการให้ใส่เสื้อโปโล ที่เป็นแบบฟอร์ม แล้วสาวผิวคล้ำอย่างเรา ขืนใส่เสื้อโปโล สีสด มีหวังโดนล้อว่าอีกาคาบพริกแน่นอน วันนี้เราเลยมีวิธีการเลือกใส่เสื้อผ้าที่เหมาะกับสาวสีผิวต่าง ๆ มาฝากกันค่ะ...

ผิวขาวดูสุขภาพดี

            สาวที่มีผิวขาวดูสุขภาพดีนั้นถือว่าค่อนข้างโชคดีเหมือนสาวผิวอมชมพูเพราะสามารถเลือกโทนสีสด ๆ มาสวมใส่ก็ได้ อย่าแปลกใจถ้าจะมีใครแอบชำเลืองคุณด้วยความอิจฉา ผิวพรรณที่ต่างกันจะให้สวมเสื้อผ้าสีเดียวกันแล้วดูสวยงามเหมือนกัน คงเป็นไปไม่ได้ ควรเลือกสีสันเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสีผิวจะดีกว่าค่ะ

 ผิวขาวซีด

            สีผิวที่ขาวจนเกินไปแลดูเหมือนสุขภาพไม่แข็งแรงนัก ควรเลือกสีที่มีโทนค่อนข้างเข้ม หรือหม่นสักเล็กน้อยเพื่อขับสีผิวให้ดูเข้มขึ้น เล็กน้อย เช่น สีแดงเข้ม สีเหลืองอมน้ำตาล สีน้ำตาลไหม้ หรือสีเขียวเข้ม เป็นต้น

 ผิวสองสี

            สาวผิวสีนี้ค่อนข้างดูเซ็กซีมีเสน่ห์อยู่ในตัว การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมจึงควรเลือกเสื้อผ้าที่มีสีค่อนข้างอ่อน โดยเฉพาะสีผสมต่าง ๆ ที่ดูไม่ร้อนแรงหรือเย็นตาจนเกินไป เช่น สีน้ำตาลอมแดง สีเขียวอมฟ้า สีชมพูอมส้ม สีเลือดนก สีชมพูหม่น เป็นต้น

ผิวสีคล้ำ

            ควรเลือกใส่เสื้อโปโล โทนกลาง ๆ ไม่อ่อนจนเกินไปและไม่สดเกินไป หรือเลือกเฉดสีที่ค่อนข้างเข้มก็ดี เช่น สีกรมท่า สีน้ำตาลเข้ม สีฟ้า สีม่วง สีเทา สีเขียวเข้ม เพราะสีเสื้อโทนนี้สามารถทำให้ผิวของคุณดูกลมกลืนกับเสื้อผ้า และยังทำให้คุณดูขาวขึ้นกว่าการใส่เสื้อที่มีสีสันสด ๆ ด้วยค่ะ

1